เพื่อให้ผู้ประกอบการที่สนใจนำเข้าสินค้าจากจีน ทำความเข้าใจขั้นตอนการนำเข้าสินค้า การเตรียมเอกสารต่างๆ ได้เห็นกระบวนการที่เกิดขึ้น จะได้วางแผนและกำหนดระยะเวลาในการนำเข้าสินค้าได้ตรงตามเป้าหมาย
สรุปหัวข้อหลักวิธีนำเข้าสินค้าจากจีนมาขายในไทยนั้น
-
เลือกสินค้า
พื้นฐานสำคัญ คือการเลือกสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่จะนำมาขาย รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่คุณต้องการนำเข้าให้ได้มากที่สุด ศึกษาเอกสารข้อมูลองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์และตัวอย่างผลิตภัณฑ์
คุณอาจจะทำวิจัยตลาด เช็คความต้องการของสินค้าเเละคู่แข่ง กำหนดลูกค้าที่เป็นเป้าหมาย ออกแบบแผนการตลาดโปรโมทสินค้า ประเมินต้นทุน ช่องทางการขาย กำหนดราคาสินค้าที่จะขายเพื่อทำกำไรที่ได้มาต่อยอดธุรกิจ
ในด้านการนำเข้าสินค้าจากจีน ควรทราบข้อจำกัดด้านการขนส่งเเละกฏหมายในประเทศให้ดี ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าที่คุณต้องการนำเข้าได้รับอนุญาตให้เข้ามาในประเทศของคุณ นอกจากนี้สินค้าที่นำเข้าจะต้องเสียภาษีนำเข้า ซึ่งถูกกำหนดโดยกรมศุลกากร จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า มูลค้าสินค้าที่ทำการซื้อขาย เป็นต้น -
เอกสารสำคัญที่ต้องใช้ในการนำเข้าสินค้าจากจีน
ในการขนสินค้าขาเข้า มีเอกสารที่ต้องใช้ยื่นกรมศุลกากรดังต่อไปนี้
- ใบขนสินค้าขาเข้า (Import Declaration)
- ใบตราส่งสินค้าทางเรือ (B/L-Bill of Lading)
- บัญชีราคาสินค้า (Invoice)
- บัญชีรายละเอียดบรรจุหีบห่อ (Packing List)
- ใบอนุญาตหรือหนังสืออนุญาตสำหรับสินค้าควบคุมการนำเข้า (Import License)
- ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificates of Origin) ใช้ในกรณีขอลดอัตราอากรขาเข้า
- เอกสารอื่น ๆ เช่น แค็ตตาล็อก เอกสารแสดงส่วนผสม เอกสารผู้รับบรรทุกหรือผู้รับประกันภัยธนาคาร
-
ขั้นตอนการนำเข้าสินค้าจากจีน
โดยปกติการนำเข้าสินค้าที่สั่งซื้อจากประเทศจีนมาถึงไทย ผู้นำเข้าจะติดต่อสายการเดินเรือหรือสายการบินเพื่อชำระค่าใช้จ่ายปลายทาง นำส่งใบตราส่งสินค้าผ่านศุลกากร เพื่อใช้เป็นเอกสารในการปล่อยสินค้า คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองหรือใช้บริษัท Shipping ขนส่งจีนก็ได้เช่นกัน บริษันขนส่งจีนจะช่วยดำเนินการจัดการให้หมดทุกขั้นตอน ตั้งเเต่
1.) ยื่นเอกสารสำคัญในการขนสินค้าขาเข้า ดังที่กล่าวไว้เบื้องต้น ข้อมูลใจะถูกส่งเข้าระบบศุลกากร
2.) ยื่นใบขนส่งสินค้าขาเข้า และเอกสารที่เกี่ยวข้องดังกล่าวให้ทางเจ้าที่ศุลกากรตรวจสอบ เพื่อนำเข้าสินค้า ซึ่งหากมีข้อมูลผิดพลาด ผู้นำเข้าต้องดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อย เมื่อข้อมูลถูกต้องครบถ้วน เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะออกเลขที่ใบขนสินค้าให้
ใบขนส่งสินค้ามี 2 ประเภท
- ใบขนสินค้าขาเข้าประเภทที่ไม่ต้องตรวจสอบพิธีการ (Green Line) สินค้าประเภทนี้สามารถนำใบขนสินค้าขาเข้าไปชำระภาษีอากรและวางประกันที่เกี่ยวข้องได้ทันที
- ใบขนสินค้าขาเข้าประเภทที่ต้องตรวจสอบพิธีการ (Red Line) สินค้าประเภทนี้ต้องนำใบขนสินค้าขาเข้าไปติดต่อกับหน่วยงานประเมินอากรของท่านที่นำเข้าสินค้าก่อนเพื่อให้กลายเป็นสินค้า Green Line
3.) จัดการชำระภาษีอากรให้เรียบร้อย ในส่วนของเงื่อนไขการเสียภาษีอากรนี้ เจ้าหน้าที่ศุลกากรจะทำการเช็คข้อมูลสินค้าแต่ละประเภท
ผู้นำเข้าสามารถชำระภาษีอากรได้ 3 ช่องทางที่เราสะดวก คือ ผ่านกรมศุลกากร, ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และผ่านช่องทางธนาคาร
เเละเตรียมสินค้าเพื่อตรวจสอบ เพื่อปล่อยสินค้าออกจากกรมศุลกากร
4.) เมื่อยื่นใบขนสินค้าขาเข้าแนบไปพร้อมกับใบเสร็จรับเงิน เป็นหลักฐานว่าได้ชำระค่าภาษีอากรที่คลังสินค้าเเล้ว เจ้าหน้าที่จะเช็ตข้อมูลของสินค้าเพื่อความถูกต้องอีกครั้ง จากนั้นจึงจะทำการปล่อยสินค้าให้กับผู้นำเข้า
ในขั้นตอนการนำเข้าสินค้าผ่านศุลกากรนี้จะต้องติดต่อยื่นเอกสารให้ครบถ้วน และจัดการจ่ายภาษีอากร ก่อนที่จะได้อนุมัติเพื่อนำของออกจากกรมศุลกากร ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงนิยมใช้บริการนำเข้าสินค้าชิปปิ้งจากจีน เพราะช่วยอำนวยความสะดวกเเละประหยัดเวลาได้อย่างมาก
Fast Cargo Logistics ถือว่าให้บริการครบจบในหนึ่งเดียว สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มได้จากทีมฝ่ายขาย
Tel : 02-002-1313 / 099-009-9796
Email : fastcargologistic.center@gmail.com
บทความที่เกี่ยวข้องที่คุณอาจจะสนใจ
การตีลังไม้ คืออะไร สินค้าแบบไหนที่ควรตีลังไม้ก่อนขนส่ง
ดูบริการนำเข้าสินค้าจากจีนของ Fast Cargo Logistic